งานผ้า: 2012

วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

บทที่ 13 ชุดคิท (ชุดKit) สำหรับผู้เริ่มต้น เย็บงาน Quilt

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ชาว งานผ้า.blogspot.com วันนี้จะมาเล่าความสำคัญของ ชุดคิท (ชุดKit) ที่เค้าทำขายกัน ทำไมต้องคนเริ่มทำใหม่ๆถึงจะต้องซื้อชุดคิท (ชุดKit) ไปทำก่อน จากประสบการณ์ที่มีเพื่อนๆ พี่ๆ มาถามว่าเย็บยังไง ทำยังไงบางละ เราก็แนะนำ เพื่อน ๆ พี่ ๆ ไปว่าลองซื้อชุดคิท (ชุดKit) ไปก่อนดีไม คำตอบที่ได้รับกลับมาคือ ทำไมพี่ต้องซื้อชุดคิท (ชุดKit) ละ ทำไม ฉันต้องซื้อชุดคิท (ชุดKit) ละ วันนี้เราจะมาแถลงไขกันดีกว่า ว่าไอชุดคิท (ชุดKit) เนี้ยมันมีอะไรให้เราบาง และ มันจะตอบโจทย์สำหรับผู้เริ่มเย็บได้มากน้อยแค่ไหนกัน. . . .

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ที่แนะนำให้พี่ๆ เพื่อนซื้อชุดคิท (ชุดKit) ไปทำก่อนก็คือ ชื่อมันก็บ่งบอกอยู่แล้วว่ามันเป็นชุดทดลองเย็บซื้อ ราคาของชุดคิท (ชุดKit) ก็จะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับขนาดและความยากง่ายของตัวงานและเนื้อผ้าของแต่ละยี่ห้อจัดสรรลงไปในชุดคิท (ชุดKit)ซึ่งสิ่งที่จะประกอบลงไปส่วนมาก็จะมี แพทเทินร์ , ผ้า , อุปกรณ์ประกอบตัวงาน, ใยโพลีเอสเตอร์ และบางทีอาจจะมี How to วิธีการทำให้ด้วย ซึ่งชุดคิท (ชุดKit) ชุดสามารถสร้างงานได้ 1 ชิ้นงาน และ จะตอบโจทย์ของเราได้คือ เราชอบเย็บผ้าหรือเปล่า เห็นเสน่ห์ ของงานนี้หรือไม่ โดยที่ไม่ต้องไปลงทุนก่อนโดยที่เรายังไม่รู้เลยว่าเราชอบและถนัดด้านหรือเปล่า.... บางคนอาจจะชอบลงทุนซื้อจักร์ อุปกรณ์โน้นนี้นั้น ที่เกี่ยวกับงาน Quilt โดยตรงไปเลย หรือบางคนลองเย็บด้วยชุดคิท (ชุดKit) แล้วไม่รู้สึกชอบก็สามารถหยุดได้โดยที่ยังไม่ได้ลงทุนซื้อจักร์หรืออุปกรณ์มาเก็บไว้ที่บ้านเปลืองค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุ เห็นไมค่ะว่าชุดคิท (ชุดKit) มีความสำคัญสำหรับผู้เริ่มต้นเย็บผ้ามากแค่ไหน สำหรับวันนี้มาเมาส์ให้ฟังแค่นี้ก่อนเน้อ ไว้เจอกันในบทต่อไปค่ะ บับบาย....

ลิขสิทธิ์ Blog งานผ้า.blogspot.com
-------------------------------------------------

วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

บทที่12 โรตารี่คัตเตอร์

บทที่ 12 โรตารี่คัตเตอร์

สวัสดีค่ะเพื่อน ชาว งานผ้า.blogspot.com วันนี้มาแนะนำอุปกรณ์เพิ่มอีก 1 ตัว มันคือ คัตเตอร์ เอ้ย...ไม่ใช้ มันคือ โรตตารี่คัตเตอร์ นั้นเอง หุหุ แล้วมันมีความสำคัญไม จำเป็นต้องมีหรือเป่าหน๊า. . . ตามกันไปดูโล๊ดเลยค่ะ พี่น้อง ฮ่า

ลักษณะของ โรตารี่คัตเตอร์

เพื่อนเคยเห็นกันหรือเป่าค่ะ ฝนเคยเห็น โรตารี่คัตเตอร์เนี้ยมีหน้าทีคลายกับกรรไกรที่เอาไว้ตัดผ้าเพราะว่า โรตารี่คัตเตอร์ก็ใช้สำหรับตัดผ้าเช่นกัน แต่มันสามารถตัดได้เนียบกว่ากันกรรไกรและตามรูปทรงได้มากกว่า การใช้งานก็กรีดลงบนผืนผ้าเลยตามลักษณะที่เราต้องการ จะเรียกว่าคัตเตอร์ก็ได้เพียงแต่ว่าใบมีดของโรตารี่คัตเตอร์นี้มีลักษณะกลมไม่เหมือนคัตเตอร์อย่างที่เราเห็นและมีความคมมาก มีความจำเป็นต่องานผ้าอยู่พอสมควร เพราะถ้าเราใช้เจ้าโรตารี่คัตเตอร์นี้สามารถประหยัดเวลาในการตัดผ้ามากขึ้นและไม่ต้องมานั้นวาดแพทเทรินเลย เพียงแต่เราเอาเจ้าโรตารี่คัตเตอร์นี้ตัดลงไปตามแบบที่เราวางเอาไว้ได้เลย.... ส่วนเรื่องราคาของเจ้าโรตารี่คัตเตอร์เนี้ยก็สูงเอาการอยู่เหมือนกัน ถ้าเพื่อนที่เริ่มทำงานผ้าคิดว่ายังไม่มีความจำเป็นก็อย่าพึงไปสอยมาครอบครองใช้กรรไกร กันไปก่อนเด้อคร๊า....... 5555

วันนี้ได้ความรู้กันหรือเปล่าหน๊า ฮี่ๆๆ บับบายค่ะ จุ๊บ จ๊วฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

เครดิตรูป : sewing.iamtester.com

ลิขสิทธิ์ Blog งานผ้า.blogspot.com
-------------------------------------------------

วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

บทที่ 11 กระดาษลอกลาย (Tracing paper)

บทที่ 11 กระดาษลอกลาย ( Tracing paper )

สวัสดีค่ะเพื่อน พี่ๆ ชาว งานผ้า.Blogspot.com เราได้ทำความรู้จัก อุปกรณ์ และ วัสดุไปหลายอย่างแล้วเรามาเรียนรู้เพิ่มเติมอีกตัว 1 คือ กระดาษลอกลาย มันมาเกี่ยวกับงานผ้าได้ยังไง ? งง กันใช่ไมค่ะงั้นเรามาทำความารู้จักกับกระดาษลอกลายเลยดีกว่าเนอะ

กระดาษลอกลายเนี้ยมีความจำเป็นต่องานผ้าเหมือนกันเพราะว่าหน้าที่ของกระดาษลอกลายเนี้ยมีหน้าเอาไว้ลอกลายที่เราต้องการลงผืนผ้าแล้วนำไปทำงาน Applique หรือ นำไปปักต่อไป กระดาษลอกลายตามท้องตลาดมีอยู่ 2 แบบด้วยกันค่ะ

1. กระดาษลอกลายที่มีลักษณะที่เป็นคาร์บอน หรือ กระดาษดรอยชนิดไข ใช้สำหรับลอกลายลงบนผืนผ้า มีหลายสี เช่น สีฟ้า สีแดง สีเหลือง เราควรที่จะเลือกใช่สีของกระดาษลอกลายตามสีของผ้า

2. กระดาษลอกลายที่มีลักษณะกระดาษแก้วลอกลาย ใช้สำหรับลอกลายที่ต้องการลงบนกระดาษแก้ว แล้วนำกระดาษแก้วไปวางบนผ้า แล้วเนากระดาษติดกับผืนผ้าแล้วเราถึงจะนำผ้าไปทำการ Applique หรือปักงานต่อไปถ้าเราทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้วค่อยนำกระดาษออกอีกครั้ง

เป็นยังไงบางค่ะ พอที่จะเข้าใจในส่วนเรื่องของกระดาษลอกลายกันบางหรือเปล่าเพื่อน ลองไปหาดูมาใช้ดูกันนะคะ สำหรับที่ซื้อกระดาษลอกลายก็มีหลายที่ เช่นร้านขายเครื่องเขียน หรือไมก็ร้านสำหรับตัดเย็บเสื้อผ้า ... ลองใช้กันดูค่ะ จะทำให้เราทำงานง่ายขึ้นเยอะเลย

สำหรับวันนี้เท่านี้ก่อนนะคะ ไว้เจอกันใหม่คร๊า........ จุ๊ฟฟฟฟฟฟ

ลิขสิทธิ์ Blog งานผ้า.blogspot.com
-------------------------------------------------

วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

บทที่ 10 ใยโพลีเอสเตอร์ จริงๆ แล้วมีกี่แบบ.....

จากบทที่แล้วเราว่าด้วยเรื่องผ้ากาวไปละ เพื่อนเข้าใจกันหรือเป่าหน๊อ ถ้าไม่เข้าใจยังไงก็โพสถามกันเลยละกันเนอะ ต่อ ๆ วันนี้เรามาเรียนรู้เรื่อง ใยโพลีเอสเตอร์กันดีกว่า ว่ามันมีกี่แบบ และแต่ละแบบเหมาะกับงานแบบไหนบาง....

ใยโพลีเอสเตอร์จริงๆ แล้วมี 2 แบบ โดยแบ่งเป็นใยโพลีเอสเตอร์อัดแผ่น และ ใยโพลีเอสเตอร์ไม่อัดแผ่น ....

1) ใยโพลีเอสเตอร์อัดแผ่น : จะมีลักษณะเป็นแผ่นสีขาวมีความนุ่มและ ความหนา แล้วแต่มารตราฐานตามโรงงานผลิตซึ่งความหนาขอแต่ละแผ่นก็จะใช้งานกันแตกต่างกันออกไป งานผ้า 1 ชิ้นงานอาจจะใช้ใยโพลีเอสเตอร์หลายขนาดก็ได้ก็ได้ค่ะ สำหรับเรื่องราคาก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อว่าเราต้องการใยโพลีเอสเตอร์คุณภาพประมาณไหนเรียกง่ายๆ คือ อยู่กับความต้องการของเรานั้นเองจ้า

2) ใยโพลีเอสเตอร์ไม่อัดแผ่น : จะมีลักษณะฟูไม่เป็นแผ่นเรียบ ใยโพลีเอสเตอร์ชนิดนี้จะใช้ยัดหมอนหรือไมก็ยัดตุ๊กตาที่ขายตามท้องตลาด เรื่องราคาก็เช่นกันขึ้นอยู่กับยี่ห้อว่าเราต้องการใยโพลีเอสเตอร์คุณภาพแบบไหน ...

เป็นยังไงกันบางพอที่จะรู้แล้วใช่ไมว่าสำหรับงานผ้าของเราเนี้ยจะต้องใช้ใยโพลีเอสเตอร์แบบไหนกัน
ไม่ว่าจะเลือกใช้ใยโพลีเอสเตอร์ให้เหมาะสมกับตัวงานของเรานะจ๊ะ ไปแล้วจ๊ะที่รัก. . . .จุ๊ฟ

ลิขสิทธิ์ Blog งานผ้า.blogspot.com
-------------------------------------------------

บทที่ 9 ผ้ากาว .... มันเป็นยังไง ?

สวัสดีคะ เพื่อนชาว งานผ้า.Blogspot .com

ฮ่า .... หายไปซะนานเลย ต้องขออภัยอย่างสูงที่ไม่ได้มาทำการ Updateเลย เกิดอาการสำนึกผิดเล็กน้อยถึงปานกลาง วันนี้จะการเอ่ยเรื่องผ้ากาว ใครยังไม่รู้จักผ้ากาว เชิญทางนี้เลยค่ะ ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่า ฝนไม่ได้มีความรู้เกียวกับทางด้านนี้โดยตรง แต่พอเราเริ่มทำงานผ้าก็ต้องมีความรู้ตรงนี้ประดับเอาไว้ นิดหน่อยและส่วนสำหรับผ้ากาว มันก็เป็นสิ่งจำเป็นอย่างหนึ่งเหมือนกันที่จะให้ใช้ในการเย็บผ้า และยังสามารถนำมาขึ้นชิ้นงานได้เช่นกัน หุ หุ หุ งง กันไมเอ่ย เพราะว่าฝนก็ งง เหมือนกัน ฮี่ ๆ

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับผ้ากาวกันก่อนว่ามันมีกี่ชนิด...... ว่าด้วยตามตลาดแล้ว ผ้ากาวมีทั้งหมด 3 ชนิดค่ะ โดยแบ่งตามเนื้อผ้าดังนี้

1 ) ผ้ากาวเนื้อแข็ง : ผ้ากาวชนิดนี้ใช้กับงานผ้าที่ต้องการขึ้นทรง อาทิเช่น เสื้อสูท เสื้อข้าราชการ และ กระเป๋าผ้า บางอย่าง หรืออัดเป็นสาบโชว์ขอบเสื้อ

2 ) ผ้ากาวเนื้อผ้าสาลู : ผ้ากาวชนิดนี้จะมีเนื้อหนาจะมีความคลายกับผ้าขาวบางที่เราใช้ทำขนม แต่จะมีความหนามากกว่า ใช้สำหรับงานผ้าที่ต้องการอยู่ทรงมากหน่อย

3 ) ผ้ากาวเนื้อผ้าชีฟอง : ผ้ากาวชนิดนี้จะมีเนื้อบางนุ่ม พอเราอัดผ้าลงไปแล้วเนื้อผ้าจะไม่มีความแข็งและเป็นผ้ากาวที่นิยมใช้กันมากที่สุดสำหรับช่างตัดผ้า

เราก็ได้ทำความรู้จักเกี่ยวกับผ้ากาวกันพอสมควรแล้วเนอะ ถ้าอยากรู้ว่าหาซื้อผ้ากาวกันได้ที่ไหน ลองกลับไปอ่านบทความที่ 5 ดูนะค่ะ แล้วไปช๊อปกลับมาทำงานผ้ากันโล๊ดเลยค่ะ ^_^

ลิขสิทธิ์ Blog งานผ้า.blogspot.com
-------------------------------------------------

วันพฤหัสบดีที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2555

บทที่ 8 เทคนิคการดูแนวผ้า …..

สวัสดีค่ะ เพื่อน สบายดีกันหรือเปล่าค่ะ เป็นยังไงบางดีกันไม การบ้านที่ให้ไป ถึงไหนกันแล้ว หรอคร๊า..... เข้าไปดูในห้องเรียน ไม่มีใครส่งการบ้านให้ซักคนเดียวเลย ก่อนอื่นต้องคงออกตัวก่อน มีปัญหานิดหน่อยนะค่ะ ถึงไม่ได้ลงบทความเลย แหะๆ เพื่อนคงไม่ว่ากันนะค่ะ วันนี้เราจะมาดูเรื่องแนว ๆ 5 5 5+ มันคือการดูเทคนิคการดูแนวผ้า คร๊า ... เพื่อนเคยรู้เรื่องนี้กันบางหรือเปล่า โอ้วววว จะไปรู้ได้ไงเนอะ ฝนยังไม่เคยบอกเทคนิคนี้เลยเนอะ เข้าเรื่องกันดีกว่ามัวแต่โม้ ก็คิดถึงเพื่อนนี้หน๊าผิดด้วยหรอ ฮ่า....

การเย็บผ้าจะให้สวยได้นั้นนอกจากฝีมือการเย็บจะต้องเนียบและความละเอียดของฝีมือผู้เย็บงานผ้าแล้ว สิ่งที่จะต้องคำนึงอีกอย่างคือตัวผ้าหรือว่าเนื้อผ้าที่กำลังทำชิ้นงาน ผ้าที่เราใช้เป็นแบบไหน เช่น คัตตอน ลินนินท์

มีเทคนิคดูไม่ยากเลย ดูตามภาพด้านล่างนี้ค่ะ

ตัวอย่างดูลายผ้า

ดูจากภาพถ้าแนวผ้าเป็นแนวตรงขึ้นไป ตัวผ้าจะไม่มีความยืดหยุ่น ดึงเท่าไรก็จะไม่ยึด ถ้าเราดึงผ้าขึ้นไปตรงๆ แล้วมีความยืดหยุ่น แสดงว่าผ้าที่เราดึงขึ้นไปนั้นเป็นแนวขวาง ผ้าจะมีความยืด ในการตัดผ้าจริงๆ แล้วจะต้องเราจะต้องตัดผ้าในแนวตรงจะทำให้ชิ้นงานผ้าของเรานั้นออกมาสวย ส่วนชิ้นงานที่จะใช้ผ้าแนวขวางก็มีคะ เช่น ถ้าเราทำหมวกตุ๊กตาจะใช้ผ้าแนวขวางทำจะชิ้นงานจะสวยไว้ในบทต่อไปฝนจะทำการสอนอีกครั้งค่ะ สำหรับวันนี้เท่านี้ก่อนนะค่ะ บับบายค่ะ อย่าลืมส่งการบ้านกันนะค่ะ ไว้เจอกันบทหน้าค่ะ

*** ส่งการบ้านได้ที่ห้องเรียน ออนไลน์ นะค่ะ ***

หมายเหตุ : How to นี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Quilt Like ซึ่งเป็นส่วนนึงของ http://งานผ้า.blogspot.com และ

www.งานผ้า.com ห้ามนำไปเผยแพร่และจำหน่ายถ้าทาง Quilt Like พบเห็นจะดำเนินคดีสูงสุดตามกฎหมาย

-----------------------------------------------------------------------------------------------------

วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

บทที่ 7 How to แมวเหมียว

บทที่ 7 How To แมวเหมียว . . . .

สวัสดีค่ะ เพื่อนไม่ได้เจอกันซะนาน กี่วันหน๊า..... ฮ่า..... ก็หลายวันอยู่เนอะ มั่วแต่ไปปล้ำ How to ที่แจ้งไว้บทที่ 6 เง้อ! ครั้งแรกของการทำ How to จริงๆ กลัวสาระพัดเลย...พยายามอธิบายให้เพื่อนทำให้ง่าย ที่สุดสำหรับเพื่อน ๆ เลย เรามาลองดูกันดีกว่า ว่ามันทำกันยังไง ไม่ยากอย่างที่คิดหน๊า อุปกรณ์เพื่อนพอจะมีเตรียมไว้บางหรือเปล่า ถ้าไม่มีมะเป็นไร อ่านแล้วค่อยๆ ซื้อมาลองทำก็ได้คร๊า....

ขั้นที่ 1

ร่างแบบที่เราจะทำคือ แมวเหมียว

ขั้นที่ 2 ทำการวาดลง patter พลาสติกโดยแยกออกมาเป็นส่วนๆ

ขั้นที่ 3 ผ้าที่จะทำการเย็บดังนี้

ผ้าสำหรับทำหน้า 2 ชิ้น , ผ้าซัพใน 2 ชิ้น , ใยโพลีอัดแผ่น 2 ชิ้นสำหรับทำหน้า และ สำหรับทำหู 2 ชิ้น , ผ้าสำหรับทำหน้าแสกกลาง 1 ชิ้น , ผ้าสำหรับใบหูส่วนตรงกลาง 2 ชิ้น, ผ้าสำหรับทำลูกตา 2 ชิ้น , ผ้าสักหลาด 1 ชิ้น

ขั้นที่ 4 นำเทมเพลตวางลงบนผ้าที่เราเตรียมไว้แล้วทำการนำปากกาเขียนผ้าเขียนตามเทมเพลตนั้น (ส่วนหน้าของแมว)

ขั้นที่ 5 นำแสกหน้าวาดลงไปในส่วนหน้าด้วยเพื่อที่เราจะได้ทำในส่วนต่อไป

ขั้นที่ 6 นำ pattern ส่วนต่างๆ วาดลงผ้าให้หมด

ขั้นที่ 7 ทำแสกหน้าก่อน เวลาตัดผ้าจะต้องตัดเพื่อเย็บไว้ประมาณ 5 มิล

ขั้นที่ 8 ตัดริมขอบไว้พับแล้วเย็บเป็นช่วงด้วยค่ะ

ขั้นที่ 9 เราทำการเนาชิ้นงานให้โดยรอบแล้วทำการเก็บขอบชิ้นงานให้เรียบร้อย

ขั้นที่ 10 จากนั้นนำชิ้นงานแสกนห้ามาทาบกับหน้าที่เราวาดแสกหน้าเอาไว้แล้ว และใช้เช็มหมุดกลัดชิ้นงานแสกหน้ากับหน้าไว้

ขั้นที่ 11 จากนั้นทำการเนาติดกับส่วนหน้าให้เรียบร้อยค่ะ

ขั้นที่ 12 ทำการสอบซ้อนด้านให้ส่วนหน้ากับแสกหน้าติดกัน

ขั้นที่ 13 ส่วนใบหูด้านในก็ทำเหมือนกับแสกหน้าเหมือนกันค่ะ

ขั้นที่ 14 ลูกตาก็ทำเหมือนแสกหน้า เนาเก็บขอบให้หมดค่ะ

ขั้นที่ 15 เราได้แสกหน้าเรียบร้อยแล้ว จากนั้นนำเทมเพลตส่วนตาวาดลงให้เหมือนแบบ

ขั้นที่ 16 จากนั้นเราเย็บสอยซ้อนด้ายส่วนตาให้เรียบร้อย แล้วทำการกลับด้านหลัง

ขั้นที่ 17 จากนั้นทำการเจาะด้านหลังในส่วนของตา และ แสกหน้า เพื่อที่จะไม่ผ้าลั้งในตอนเย็บ

ขั้นที่ 18 ส่วนหู ก็ทำการเจาเหมือนกัน จากนั้น นำชิ้นงานส่วนหน้าคล่ำลง และ ปะกบกับส่วนหน้าของผ้าลองซัพและนำใยโพลีลองอีกครั้ง

ขั้นที่ 19 จากนั้นทำการเย็บด้นถอยหลังประกอบชิ้นงาน

ขั้น 20 กลับชิ้นงานออกมาจะได้แบบนี้ค่ะ

ขั้นที่ 21 ทำส่วนหน้า นำส่วนหน้าคว่ำลงปะกบกับผ้าด้านถูกของผ้าซับในและด้านล่างคือใยโพลีวางส่วนสุดท้ายและนำส่วนหูวางด้านที่มีใบหูสีขาวขึ้นนะคะ

ขั้นที่ 22 จากนั้นเย็บชิ้นงานปะกบเหมือนส่วนหูและกลับชิ้นงานออกมาจากนั้นก็ทำการเย็บปิดชิ้นงาน

ขั้นที่ 23 กลับชิ้นงานออกมาแล้วจะได้แบบนี้จ้า. .

ขั้นที่ 24 ทำด้านหลัง คือ วงกลมธรรมอีก 1 ชิ้น เนาด้นถอยหลังให้เรียบร้อย

ขั้นที่ 25 จะได้ชิ้นด้านหน้าและด้านหลังออกมาแบบนี้ จากนั้นก็ทำการด้นถอยหลังปะกบชิ้นหน้าและชิ้นหลังและทำการแต่งหน้าให้เรียบร้อย อย่าลืม !! เว้นส่วนที่ไม่ต้องเย็บประ 2 cm. ไว้ใส่สาย Key Cover ค่ะ

ขั้นที่ 26 ส่วนตา ก็ใช้ผ้าสักหลาดที่เตรียมเอาไว้เย็บติดลงไปในส่วนตาดำ และ ส่วนปาก จมูก เคี่ยว และ

หนวดใช้วิธีการปักตามปกติ

ขั้นที่ 27 แถมตัวปลาด้วยจ้า เย็บปิดตรงปมของสาย Key Cover เย็บปะกบแล้วกลับออกมาแล้วยัดใบโพลีเอสเตอร์นิดหน่อย แล้วเย็บติดกับสาย Key Cover ได้เลยค่ะ

ขั้นที่ 28 จบบริบูรณ์

เพื่อน ๆ ไม่เข้าใจ How to ส่วนไหนถาม ทิ้งข้อความไว้แล้วฝนจะเข้ามาตอบ How to ในส่วนที่เพื่อนถามนะค่ะ หรือ ถาม How to ในห้องเรียนออนไลน์ได้ค่ะ ฝนพึ่งเปิดไว้สำหรับแจกแพทเทินร์ และ เล่นเกม แลกเปลี่ยนความรู้กันและ ทำ How to กัน เปิดรับเพื่อนทุกคนนะค่ะ ^0^ ไว้เจอกันบทความหน้านะค่ะ บับบาย แล้วเรามาลุ้นกันว่าจะทำอะไร เอิ้กๆๆ

*** ส่งการบ้านได้ที่ห้องเรียน ออนไลน์ นะค่ะ ***

-------------------------------------------------